3. อัญญมัญญมูลยมกะ :-
ธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง มีมูลเป็นอันเดียวกันกับอัพยากตมูล
มีอยู่, ธรรมเหล่านั้นทั้งหมด ชื่อว่าเป็นมูลแก่กันและกันกับอัพยากตมูล
ใช่ไหม ?
อัพยากตมูลเหล่าใดเกิดขึ้นคราวเดียวกัน อัพยากตมูลเหล่านั้น
มีมูลเป็นอันเดียวกันด้วย ชื่อว่าเป็นมูลแก่กันและกันด้วย, ธรรมที่เกิด
พร้อมกันกับอัพยากตมูลที่เหลือนอกนั้น มีมูลเป็นอันเดียวกันกับอัพยา-
กตมูล แต่ไม่ชื่อว่าเป็นมูลแก่กันและกัน.
ก็หรือว่าธรรมเหล่าใด ชื่อว่าเป็นมูลแก่กันและกันกับอัพยากต
มูล มีอยู่, ธรรมเหล่านั้นทั้งหมด เป็นอัพยากต ใช่ไหม ?
ใช่.
[15] มูลมูลนยะที่ 2
1. มูลยมกะ :-
ธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เป็นอัพยากตะ มีอยู่, ธรรมเหล่านั้น
ทั้งหมด ชื่อว่ามูลที่เป็นอัพยากตมูล ใช่ไหม ?
มูลที่เป็นอัพยาตมูลมี 3 เท่านั้น ชื่อว่ามูลที่เป็นอัพยากตมูล,
อัพยากตธรรมที่เหลือนอกนั้น ไม่ชื่อว่ามูลที่เป็นอัพยากตมูล.
ก็หรือว่าธรรมเหล่าใด ชื่อว่ามูลที่เป็นอัพยากตมูล มีอยู่, ธรรม
เหล่านั้น ทั้งหมด เป็นอัพยากตะ ใช่ไหม ?
ใช่.
2. เอกมูลยมกะ :-
(เอกมูลมูลา )
ธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ที่เป็นอัพยากตะ มีอยู่, ธรรมเหล่านั้น
ทั้งหมด มีมูลที่เรียกว่าเป็นมูลอันเดียวกันกับอัพยากตมูล ใช่ไหม ?
อัพยากตะที่เป็นอเหตุกะ ไม่มีมูลที่เรียกว่าเป็นมูลอันเดียวกัน
กับอัพยากตมูล, อัพยากตะที่เป็นสเหตุกะมีมูลเป็นอันเดียวกันกับ
อัพยากตมูล.
ก็หรือว่าธรรมเหล่าใด มีมูลที่เรียกว่าเป็นมูลอันเดียวกันกับ
อัพยากตมูล มีอยู่, ธรรมเหล่านั้นทั้งหมด เป็นอัพยากตะใช่ไหม ?
3. อัญญมัญญมูลยมกะ :-
(อญฺญมญฺญมูลมูลา)
ธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง มีมูลที่เรียกว่าเป็นมูลอันเดียวกันกับ
อัพยากตมูล มีอยู่, ธรรมเหล่านั้นทั้งหมด ชื่อว่ามูลที่เรียกว่าเป็นมูล
แก่กันและกันกับอัพยากตมูล ใช่ไหม ?
อัพยากตมูลเหล่าใดเกิดขึ้นคราวเดียวกัน อัพยากดมูลเหล่านั้น
มีมูลที่เรียกว่าเป็นอันเดียวกันด้วย ชื่อว่ามูลที่เรียกว่าเป็นมูลแก่กันและ
กันด้วย, ธรรมที่เกิดพร้อมกันกับอัพยากตมูลที่เหลือนอกนั้น มีมูลที่
เรียกว่าเป็นมูลอันเดียวกันกับอัพยากตมูล แต่ไม่ชื่อว่ามูลที่เรียกว่าเป็น
มูลแก่กันและกัน.